1 เลือกกซับริมฝีปากมีสีเดียวกับลิปสติกซึ่งดูเป็นธรรมชาติมากกว่า หรือถ้าคุณต้องการรับประทาน ให้เลือกลิปไลเนอร์สีน้ำตาลอ่อนหรือสีชมพูเนื้อที่เป็นธรรมชาติมาก เพราะการกินจะกินลิปสติกไปบางส่วน และความกันน้ำของลิปไลเนอร์นั้นแข็งแกร่งกว่าลิปสติกมาก หากคุณไม่ต้องการทิ้งรอยเป็นวงกลมที่ดูอึดอัดและหนากะทันหันหลังมื้ออาหาร อย่าใช้สีเข้มซับริมฝีปาก.
2 ควรดึงริมฝีปากบนจากขอบริมฝีปากทั้งสอง (ส่วนที่ยื่นออกมาสองอัน) ไปที่มุมปาก และคุณสามารถวาดไปที่มุมปากได้ ในขณะที่ริมฝีปากล่างควรใช้กับลักยิ้มของริมฝีปากเท่านั้น (ด้านล่าง) และพยายามซ่อนมันไว้ ซึ่งจะมีผลเป็นธรรมชาติมากขึ้นและยังสามารถแก้ไขรูปร่างริมฝีปากได้อีกด้วย
3 หากจำเป็น รูปร่างปากที่มีริมฝีปากบนบางกว่าริมฝีปากล่างเล็กน้อยจะสวยที่สุด สามารถวาดเส้นริมฝีปากบนภายในเส้นริมฝีปากเดิม และเส้นริมฝีปากล่างสามารถวาดนอกเส้นริมฝีปากเดิมของริมฝีปากได้ เพื่อสร้างรูปทรงริมฝีปากที่เซ็กซี่และสมบูรณ์แบบ
4 หากสีริมฝีปากเข้มขึ้น ให้เลือกเส้นริมฝีปากสีส้มแดงอ่อนเพื่อปรับเปลี่ยนคอนทัวร์อย่างเป็นธรรมชาติ
5 การทาสีชมพูมุกหรือไฮไลท์บนริมฝีปากบนสามารถทำให้ริมฝีปากดูมีมิติและอิ่มมากขึ้น สร้างคอนทัวร์ที่สมบูรณ์แบบ และเป็นธรรมชาติและเต็มอิ่มสุดๆ – นี่คือความลับของช่างแต่งหน้าชื่อดังบางคน~
6 เมื่อทาลิปสติก ให้กดขอบปากเล็กน้อยซึ่งจะทำให้รูปร่างดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ลดร่องรอยของการปรับเปลี่ยนโดยเจตนา และทำให้เนื้อแข็งลดลง (อย่าใช้มือเกลี่ยเส้นริมฝีปากด้วยมือ เพราะจุดประสงค์ของการทาเส้นริมฝีปากคือ เพื่อป้องกันไม่ให้ลิปสติกกระจายตัวสม่ำเสมอเพราะเส้นริมฝีปากไม่หลุดลอกง่ายและเนื้อสัมผัสแห้งและเมื่อทาให้เท่ากันก็จะสูญเสียผลจากการป้องกันไม่ให้ลิปสติกกระจายตัวสม่ำเสมอและปรับเปลี่ยนคอนทัวร์ ดังนั้นเพียงทาลิปสติกเบา ๆ เพื่อปกปิดความรู้สึกแข็งอย่างเป็นธรรมชาติ)~
7 ใช้แปรงทาปากจุ่มลิปสติกแทนซับริมฝีปากการวาดเส้นขอบปาก – ถ้าคุณไม่กินอาหารหรือทำกิจกรรมหนักๆ เคล็ดลับนี้เป็นวิธีแก้ไขรูปปาก + ปรับโครงปากได้ดีที่สุด นอกจากนี้ เพียงใช้แปรงทาปากจุ่มลิปสติก ทาตามแนวริมฝีปาก แล้วเติมลิปสติกแบบเดียวกันเข้าไปด้านใน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติ
เวลาโพสต์: Jun-03-2024